วิธีเลือกซื้อเสื้อโปโลให้ที่ดี

**คอเสื้อที่ผสมผสานและกว้างปานกลางดีกับผู้ที่ปรับตัวได้ยอดตามสถานการณ์ ปกสไตล์นี้ลงตัวในทุกสถานการณ์ตั้งแต่วันทำงานถึงวันพักผ่อน เลือกเฉดที่เป็นกลาง เช่น กรมท่า เพื่อยกระดับความยืดหยุ่นในสไตล์ จับคู่กับกางเกงทรงดีเพื่อสไตล์ที่กึ่งทางการ นี่เข้ากับผู้ที่ต้องการปรับสไตล์ในทุกเวลา**

**ขอบคอแบบหนาที่แข็งคือตัวเลือกเหมาะกับบุคคลที่กล้าและต้องการความโดดเด่น ปกนี้ช่วยเสริมความมั่นใจให้ผู้ใส่ได้ทุกโอกาส สีสันที่จัดจ้าน เช่น แดง จะสนับสนุนความน่าสนใจของบุคลิก ใส่กับกางเกงทรงดีเพื่อมอบภาพลักษณ์ที่ดีเยี่ยม เหมาะกับงานปาร์ตี้ที่คนสวมตั้งใจฉายแสง**

จากนั้นเสื้อโปโลกลายเป็นแฟชั่น หลังยุค 1950 ผู้คนเริ่มใช้ในชีวิตประจำวันไม่ใช่แค่sport แบรนด์ดังอย่างFred Perry ปรับดีไซน์ให้หลากหลาย สีสันและลายเพิ่มความสนุก และกึ่งทางการ ทุกวันนี้เสื้อโปโลคือclassicที่ทุกคนมีในตู้

ไซส์คือหัวใจของเสื้อโปโล เสื้อต้องฟิตพอดีตัวแต่ไม่รัด เช็กไหล่ให้พอดีและปลายเสื้อไม่ยาวเกิน ถ้าชอบทรง slimเลือกฟิตหน่อย แบบชิลไปที่หลวมหน่อย ลองใส่ก่อนหาจะดีสุด ถ้าไหล่ตกจะดูไม่ดี ขนาดเหมาะช่วยให้มั่นใจ

การเลือกpolo shirtไม่ใช่เรื่องยาก สิ่งแรกคือวัสดุที่สบายและระบายอากาศ cottonมักเหมาะสุดเพราะใช้ได้นานและใส่แล้วเย็น synthetic blendอย่างpolyesterก็ช่วยยืดหยุ่น ลองสัมผัสว่าหนาเกินไปหรือเปล่า ถ้าใส่ casualเลือกผ้านุ่มๆ ถ้า semi-formalหาแบบมีทรง

เสื้อโปโลจากโปโลสู่เทนนิส ราว 1920s Lacoste นักเทนนิสแชมป์จากฝรั่งเศสปรับเสื้อโปโลให้ดีกว่า ใช้ผ้าฝ้ายนุ่มสบายและระบายดี เพิ่มแขนสั้นกับโลโก้จระเข้ เสื้อนี้ได้รับความนิยมในกีฬาและสไตล์ลำลอง นักเทนนิสคือคนสำคัญที่ส่งเสริมเสื้อโปโลแพร่หลาย

จุดเด่นอีกอย่างคือผ้าที่มักจะถ่ายเทความร้อนได้ดี ซึ่ง ลงตัวกับ ภูมิอากาศ ที่ หลากหลาย ตั้งแต่ ช่วงร้อน ไปจนถึง ช่วงปลายฝนต้นหนาว ทำให้ คนทั่วโลก สามารถ เลือกใช้ ได้โดยไม่ต้อง กังวล เรื่อง ความเข้ากัน

ต้นกำเนิดเสื้อโปโลมาจากกีฬา ราว ค.ศ. 1800 นักกีฬาโปโลในIndiaภายใต้การปกครองอังกฤษต้องการเสื้อใส่สบายแทนเสื้อเชิ้ตเก่า พัฒนาเป็นเสื้อแขนสั้นมีcollarและbuttons เย็นสบายและทันสมัย จึงกลายเป็นจุดเริ่มแรกของpolo shirt