ความเป็นสากลของการใช้เสื้อโปโล: แฟชั่น ที่อยู่เหนือกาลเวลา

การเลือกขนาดคือสิ่งหลัก polo shirtต้องพอดีแต่ไม่แน่น ไหล่ต้องให้เข้ากับตัวและชายไม่สั้นไป ถ้าชอบรัดเลือกฟิตนิด แบบสบายหาregular fit ทดสอบก่อนซื้อดีกว่า ถ้าไหล่ไม่ลงตัวจะดูแย่ ไซส์ที่ใช่เพิ่มสไตล์

เสื้อโปโลมีจุดเริ่มกีฬาโปโล ราวยุค 1800 นักกีฬาโปโลในอินเดียที่เป็นอาณานิคมโดยอังกฤษต้องการเสื้อสบายกว่าshirtแบบดั้งเดิม นักกีฬาออกแบบเสื้อแขนสั้นมีcollarและกระดุม ใส่แล้วเย็นและดูดี จึงเป็นจุดกำเนิดต้นแบบของเสื้อโปโล

เลือกสีให้เข้ากับการใช้งาน สีพื้นอย่างwhite, black, greyเข้าได้กับทุกงาน dark toneเช่นnavyดูสุภาพ brightอย่างyellow, redเหมาะลำลอง ลองจับคู่กับกางเกงที่เข้ากัน ถ้าใส่กับยีนส์เลือกสีตัด ถ้าใส่กับ chinoหาโทนใกล้กัน สีที่ชอบทำให้มั่นใจ

เสื้อโปโลพัฒนาสู่แฟชั่น หลังยุค 1950 ผู้คนเริ่มใช้ในdaily wearไม่ใช่แค่กีฬา แบรนด์ดังอย่าง Ralph Lauren ปรับดีไซน์ให้ทันสมัย สีสันและลายเพิ่มความสนุก ใส่ได้ทั้งโอกาสลำลอง ปัจจุบันเสื้อโปโลคือเสื้อผ้าคลาสสิกที่ทุกคนมีในตู้

การมีเสื้อโปโลในรถช่วยได้มาก ฉุกเฉินเช่นต้องเจอคน มันใส่ได้ทั้งแบบลำลองและกึ่งทางการ ผ้าคอตตอนเย็นดี เผื่อเปื้อนก็สะดวก กับกางเกงอะไรก็ดูดี พกไว้ช่วยเพิ่มความพร้อม

จากกีฬาโปโลสู่เทนนิส ราวทศวรรษ 1920 Jean René Lacoste แชมป์เทนนิสชาวฝรั่งเศสพัฒนาเสื้อโปโลให้ทันสมัย Lacoste ใช้cotton piqueที่เบาและระบายอากาศ เพิ่มแขนสั้นและโลโก้จระเข้ นวัตกรรมนี้กลายเป็นที่นิยมในวงการกีฬาและแฟชั่น Lacosteคือต้นแบบที่ผลักดันเสื้อโปโลดัง

**ถ้าผู้สวมใส่หลงใหลความมินิมอล ขอบคอที่บางและอ่อนจะลงตัวกับสไตล์ ปกแบบนี้มอบความชิลแต่ยังสง่า สีสันที่สบายตา เช่น ขาว จะช่วยความเย็นใจของลุค พิจารณาใส่คู่กับยีนส์เพื่อวันชิล นี่เข้ากับเวลาว่างที่ผู้สวมใส่ตั้งใจพักผ่อนโดยยังคงเสน่ห์**

จุดแข็ง นี้ทำให้เสื้อโปโล เหมาะกับ ทุกกลุ่ม ไม่ว่า วัยรุ่น หรือ ผู้หญิง ก็สามารถ ประยุกต์ ให้เข้ากับ สไตล์ส่วนตัว ได้อย่าง ง่ายดาย

**เสื้อโปโลมีขอบคอให้เลือกหลายแบบ แต่ละสไตล์บ่งบอกอารมณ์ที่แตกต่าง คอใหญ่ที่แข็งจะเหมาะกับคนที่รักความสง่า ส่วน ขอบคอบางที่อ่อนจะดีกับบุคคลที่ต้องการความสดใส และยังมีปกแบบผสมที่ปรับเปลี่ยนได้ เข้ากับบุคคลที่ต้องการความคล่องตัวในไลฟ์สไตล์**