ที่มาแห่งเสื้อโปโล

พกเสื้อโปโลดีเรื่องความมั่นใจ ไปงานกะทันหัน สวมทันทีดูสุภาพ สีพื้นอย่างwhite, greyใช้ได้ทุกงาน ไม่ต้องกังวลเรื่องเลอะ พกเสื้อในรถคือตัวช่วย ทุกครั้งก็ดูดี

จากนั้นpolo shirtกลายเป็นสไตล์ ตั้งแต่ 1950s ผู้คนเริ่มใช้ในdaily wearไม่ใช่แค่sport ยี่ห้อใหญ่อย่าง Ralph Lauren พัฒนาให้ทันสมัย สีสันและลายเพิ่มสไตล์ และกึ่งทางการ ปัจจุบันเสื้อโปโลคือเสื้อผ้าคลาสสิกที่คนทั่วไปมีไว้ใช้

**โปโลเชิ้ตเป็นไม่ใช่แค่เครื่องแต่งกายธรรมดาในโลกของแฟชั่น มันคือตัวแทนของความยืดหยุ่นที่ลงตัวระหว่างความสบายและสไตล์ แต่จุดเด่นที่สำคัญอยู่ที่ขอบคอ ซึ่งรับผิดชอบไม่ใช่แค่การตกแต่ง เพราะมันบ่งบอกตัวตนของคุณได้อย่างเห็นได้ชัด ลักษณะและความกว้างของขอบคอจะบ่งบอกว่าผู้ใส่มีตัวตนแบบไหน ตั้งแต่ความคลาสสิกจนถึงความทันสมัย เนื้อหานี้จะช่วยคุณหาขอบคอที่แสดงถึงสไตล์ได้อย่างสมบูรณ์ **

เสื้อโปโลย้ายจากกีฬาโปโล ราวทศวรรษ 1920 Jean René Lacoste แชมป์เทนนิสชาวฝรั่งเศสปรับปรุงเสื้อโปโลให้ทันสมัย Lacoste ใช้ผ้าฝ้ายที่นุ่มและเย็น เพิ่มแขนสั้นและโลโก้จระเข้ เสื้อนี้กลายเป็นฮิตในsportswearและแฟชั่น Lacosteคือผู้บุกเบิกที่ผลักดันเสื้อโปโลดัง

ใน ทวีปเอเชีย เสื้อโปโลมักถูก นำไปใช้ ใน สถานศึกษา เป็น ยูนิฟอร์ม เพราะ ความเหมาะสม และ ความคงทน ของผ้า แต่ในฝั่งตะวันตก มันสะท้อนสไตล์ที่ผ่อนคลายแต่สง่างาม ความปรับตัว นี้ทำให้มัน ผสาน กับ วัฒนธรรม ที่ หลากหลาย ได้อย่าง น่าประทับใจ

เสื้อโปโลพกง่ายไม่ยับ ทิ้งไว้ไม่เสียทรง ไม่เหมือนเสื้อเชิ้ตที่ยับง่าย ขนาดเล็กไม่เกะกะ ถ้าอากาศร้อนเปลี่ยนแล้วสบาย หยิบใช้ได้ทันที ติดรถคือความคล่องตัว

ไซส์จำเป็นสุดๆ polo shirtต้องพอดีแต่ไม่อึดอัด วัดไหล่ให้พอดีและชายไม่ยาวไป ถ้าชอบรัดเลือกฟิตนิด แบบสบายหาทรงปกติ ทดสอบก่อนซื้อดีกว่า ชายไม่ดีจะดูแย่ ขนาดดีเพิ่มสไตล์

การมีเสื้อโปโลในรถช่วยได้มาก ฉุกเฉินเช่นต้องเจอคน สวมง่ายทั้งcasualและกึ่งทางการ ผ้าคอตตอนระบายอากาศดี เผื่อเปื้อนก็สะดวก ใส่กับยีนส์ก็ดูดี พกไว้ช่วยเพิ่มความพร้อม

จุดเริ่มแห่งเสื้อโปโลคือกีฬา ในศตวรรษที่ 19 ผู้เล่นโปโลในIndiaที่ปกครองโดยอังกฤษหาเสื้อสบายกว่าshirtแบบดั้งเดิม นักกีฬาออกแบบshort-sleeve shirtมีcollarและกระดุม ระบายอากาศและดูดี นี่คือจุดกำเนิดต้นแบบของเสื้อโปโล