ที่มาแห่งเสื้อโปโล

อนาคตของเสื้อโปโล
ด้วย กระแส ที่ เพิ่มขึ้น เสื้อโปโลยังคง ครองใจ ใน โลกของสไตล์ แบรนด์ต่างๆ อาจเพิ่มนวัตกรรมในวัสดุ เช่น ผ้าอัจฉริยะ เพื่อ เหมาะกับ ไลฟ์สไตล์ ที่ เปลี่ยนไป

อนาคตของขอบคอโปโล
ด้วยเทรนด์ที่หมุนเวียน แบรนด์อาจใช้เทคโนโลยีมาในปกเสื้อ เช่น ผ้าที่ไม่ยับ นวัตกรรมนี้จะยกระดับการเลือกปกเสื้อให้ดีขึ้น และตอบโจทย์บุคลิกภาพที่หลากหลายมากขึ้น ทุกบุคลิกมีคอโปโลที่เข้ากันได้ตลอด เพราะมันคือส่วนที่บ่งบอกสไตล์ได้อย่างชัดเจน

**โปโลเชิ้ตเป็นมากกว่าเครื่องแต่งกายธรรมดาในแวดวงของแฟชั่น มันคือสัญลักษณ์ของความยืดหยุ่นที่เหมาะเจาะระหว่างความผ่อนคลายและความดูดี แต่สิ่งเด่นที่แท้จริงอยู่ที่ขอบคอ ซึ่งมีบทบาทเกินกว่าดีไซน์ เพราะมันสะท้อนตัวตนของคนสวมได้อย่างเด่นชัด รูปทรงและความกว้างของปกเสื้อสามารถบ่งบอกได้ว่าผู้สวมใส่เป็นคนแบบไหน ตั้งแต่คนที่หลงใหลความเป็นระเบียบไปจนถึงคนที่ชอบความทันสมัย บทความนี้จะพาคุณไปดูว่าคอเสื้อแบบไหนที่เข้ากันกับสไตล์ของคุณ **

จุดแข็ง นี้ทำให้เสื้อโปโล ตอบโจทย์ ทุกเพศ ไม่ว่า ผู้ใหญ่ หรือ ผู้ชาย ก็สามารถ ประยุกต์ ให้เข้ากับ สไตล์ส่วนตัว ได้อย่าง สะดวก

จากนั้นเสื้อโปโลกลายเป็นสไตล์ หลังยุค 1950 ผู้คนเริ่มใส่ในdaily wearไม่ใช่แค่กีฬา แบรนด์ดังอย่าง Ralph Lauren พัฒนาให้ทันสมัย colorและpatternเพิ่มสไตล์ ใส่ได้ทั้งโอกาสลำลอง ทุกวันนี้เสื้อโปโลคือเสื้อผ้าคลาสสิกที่คนทั่วไปมีในตู้

จากกีฬาโปโลสู่เทนนิส ราวทศวรรษ 1920 Jean René Lacoste tennis starชาวฝรั่งเศสพัฒนาเสื้อโปโลให้ดีขึ้น Lacoste ใช้cotton piqueที่นุ่มและระบายอากาศ ทำแขนสั้นและโลโก้จระเข้ เสื้อนี้กลายเป็นฮิตในsportswearและแฟชั่น Lacosteคือต้นแบบที่ทำให้เสื้อโปโลแพร่หลาย

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เสื้อโปโลก็ยังคงเป็นอมตะ เพราะมันคือ เครื่องแต่งกาย ที่ ทนทานต่อ แฟชั่น ชั่วคราวได้อย่างแท้จริง

การมีเสื้อโปโลในรถสะดวกมาก ฉุกเฉินเช่นต้องเจอคน สวมง่ายทั้งแบบลำลองและกึ่งทางการ ผ้าคอตตอนเย็นดี ถ้าต้องเปลี่ยนก็รวดเร็ว ใส่กับยีนส์ก็เข้ากัน พกไว้ช่วยเพิ่มความพร้อม

การพกเสื้อโปโลง่ายไม่ยับ พับไว้ไม่เสียรูป ไม่เหมือนเชิ้ตที่ต้องดูแล เล็กไม่เกะกะ ร้อนๆเปลี่ยนแล้วสดชื่น ใช้เลยได้สะดวก พกไว้คือความคล่อง